ความลับที่องค์กรชั้นนำไม่เคยบอก! “ทีมเวิร์คดี” องค์กรประสบความสำเร็จ

ทุกคนเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมบางองค์กรถึงเติบโตอย่างก้าวกระโดดแม้จะมีทรัพยากรน้อยนิด แต่บางองค์กรที่มีทรัพยากรเพียบพร้อมกลับบริหารจัดการงานแล้วสะดุด?

นั่นก็เป็นเพราะว่า กุญแจสำคัญของการทำงานไม่ใช่แค่เพียงเงินทุนจำนวนมาก เทคโนโลยีล้ำสมัย กลยุทธ์สุดเฉียบขาด หรือพนักงานหัวกะทิ เท่านั้น แต่กลับเป็นสิ่งเล็ก ๆ พื้นฐานที่ใครหลาย ๆ คนมักมองข้ามไปอย่าง “ทีมเวิร์ค” (Teamwork) หรือการทำงานร่วมกันเป็นทีมนั่นเอง

จริงหรือไม่? ทีมเวิร์คดี องค์กรดี

ทีมเวิร์ค คือ กระบวนการทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกภายในทีมหรือสมาชิกภายในองค์กรตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยมีวัตถุประสงค์ มีแพสชัน (Passion) หรือตั้งเป้าหมายร่วมกันว่า ต้องการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ ซึ่งสมาชิกภายในทีมแต่ละคนอาจจะรับผิดชอบหน้าที่หรือมีลักษณะงานที่แตกต่างกันออกไปตามความถนัดของแต่ละบุคคล แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของการมีทีมเวิร์คที่ดี คือ สมาชิกภายในทีมทุกคนต้องสามารถเป็นจิกซอว์ที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน คอยแนะนำ ให้คำปรึกษา ร่วมแก้ไขปัญหาเมื่อเจออุปสรรคในการทำงานโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมถึงบรรยากาศภายในทีมต้องส่งเสริมการทำงานและส่งเสริมการพัฒนาตัวเองของสมาชิกภายในทีมทุกคนด้วย

แน่นอนว่า ทีมเวิร์ค คือ เคล็ด (ไม่) ลับของการทำงานที่องค์กรชั้นนำระดับโลกล้วนยกให้เป็นหัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกันของพนักงานภายในองค์กร ซึ่งบางครั้ง HR หลาย ๆ องค์กรก็มักพิจารณาแคนดิเดต (Candidate) ที่มี Teamwork Skills โดดเด่นก่อนแคนดิเดตคนอื่น ๆ เสมอ เพราะองค์กรที่มีทีมเวิร์คที่ดี ย่อมเติบโตได้อย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จอย่างมั่นคงในระยะยาว

‍

1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างเห็นผลได้ชัด

ข้อดีข้อแรกของการมีทีมเวิร์คที่ดี คือ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างเห็นผลได้ชัด เนื่องจากสมาชิกภายในทีมแต่ละคนมีความถนัดที่แตกต่างกัน รวมถึงได้รับบทหน้าที่ในการรับผิดชอบภาระงานที่แตกต่างกัน เมื่อทุกคนเปิดใจยอมรับความหลากหลายในการทำงานร่วมกันเป็นทีม หรือพูดง่าย ๆ ว่ามีทีมเวิร์คที่ดี ก็จะสามารถพึ่งพาซึ่งกันและกันได้ คอยซัปพอร์ต (Support) และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างการทำงาน รวมถึงคอยตรวจสอบข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หากทำงานด้วยตัวเองคนเดียวอาจจะมองไม่เห็นหรือละเลยไป ส่งผลให้การทำงานสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว ลดโอกาสการเกิดข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลลัพธ์ของการทำงาน

2. แก้ปัญหาได้ดีขึ้นจากหลากหลายมุมมอง

เคยได้ยินสำนวนไทยไหมว่า “สองหัวดีกว่าหัวเดียว” กับการทำงานก็เช่นกัน การมีทีมเวิร์คที่ดีจะทำให้เราสามารถ แก้ปัญหาได้ดีขึ้นจากหลากหลายมุมมอง เพราะปัญหาในการทำงานเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ปัญหาเล็ก ๆ อย่างการสื่อสารภายในทีมผิดพลาดทำให้เข้าใจไม่ตรงกัน ไปจนถึงปัญหาใหญ่ ๆ อย่างการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การทำงานกะทันหัน สารพัดปัญหาต้องพบเจอมากเกินกว่าที่คน ๆ หนึ่งจะรับไหว

ดังนั้น ทีมเวิร์ค จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สมาชิกทุกคนภายในทีมกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง เปิดใจยอมรับความคิดที่แตกต่างเพื่อมองโลกมุมใหม่ ๆ และมองปัญหาจากหลายแง่มุมโดยปราศจากอคติส่วนตัว ส่งผลให้การตัดสินใจเลือกวิธีแก้ปัญหามีความรอบคอบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การมีทีมเวิร์คที่ดีจะทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่ได้เผชิญหน้ากับความยากลำบากอยู่คนเดียว เพราะไม่ว่าจะเจอปัญหาหรืออุปสรรคมากมายแค่ไหน สมาชิกคนอื่น ๆ ภายในทีมก็พร้อมรับฟังและหาทางออกไปด้วยกัน ซึ่งช่วยลดความเครียดและความกดดันได้มากกว่าการทำงานที่ต้องแบกรับทุกอย่างไว้ด้วยตัวคนเดียว เป็นการชะลอสภาวะหมดไฟ (Burnout) ในการทำงานได้เป็นอย่างดี

และจากการมีทีมเวิร์คที่ดี ทำให้หลาย ๆ องค์กรเริ่มตระหนักได้ว่า ผลลัพธ์ของการทำงานที่มีคุณภาพ มักเกิดจากการระดมสมองของสมาชิกภายในทีมทุกคน เป็นจุดเริ่มต้นของมุมมองที่หลากหลาย ไอเดียที่แตกต่าง นวัตกรรมใหม่ ๆ และโซลูชันที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน ซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากความคิดของคนเพียงคนเดียว

3. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง

ข้อดีข้อสุดท้ายของการมีทีมเวิร์ค คือ ช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง เนื่องจากทีมเวิร์คที่ดีมีพื้นฐานมาจากการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายถึงการสื่อสารกันอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา สมาชิกภายในทีมทุกคนต้องเข้าใจตรงกัน มีเหตุและผลในการสื่อสารโดยปราศจากอคติส่วนตัวเสมอ

สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทราบกันดีอยู่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วกลับเป็นเรื่องที่ทำยากที่สุด เพราะหลาย ๆ ครั้งคนเรามักยึดถือความคิดของตัวเองเป็นหลัก ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกภายในทีมคนอื่น ๆ ทำให้ไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาหรือฟีดแบ็กข้อผิดพลาดของการทำงานตรง ๆ ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาอีกหลากหลายอย่าง ซึ่งบางครั้งกว่าจะรู้สึกตัวได้เรื่องก็ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างหรือบานปลายเกินกว่าจะแก้ไขเสียแล้ว

หากองค์กรใดสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ รับรองว่าจะสามารถสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง เป็นมิตร และสนับสนุนการพัฒนาตัวเองซึ่งกันและกัน ส่งผลให้พนักงานภายในองค์กรมีความสุขในการทำงาน สุขภาพจิตก็จะดีขึ้นไปด้วย

นอกจากนี้ การมีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง จะกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่สามารถดึงดูดคนเก่ง ๆ ให้อยากมาร่วมงานกับทางองค์กร รวมถึงรักษาบุคลากรที่มีคุณค่าและ Talent ให้อยู่ร่วมงานกับองค์กรไปนาน ๆ

‍

3 กิจกรรม Ice Breaking สร้างสุดยอดทีมเวิร์คในองค์กร

ในโลกของการทำงาน บางครั้งผลงานที่สมบูรณ์แบบไม่ได้เกิดขึ้นจากความสามารถของพนักงานหัวกะทิเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยความสามัคคี ความร่วมแรงร่วมใจ และความกล้าเผชิญหน้ากับความยากลำบากของสมาชิกทุกคนภายในทีม หรือพูดให้มองเห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ ทีมเวิร์ค คือ หัวใจสำคัญของการทำงานที่มีประสิทธิภาพ นั่นเอง

ซึ่งทีมเวิร์ค คือ สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ยากมากนัก เพียงแค่ต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างทีมเวิร์คขึ้นมา ดังนั้น กิจกรรม Ice Breaking หรือกิจกรรมละลายพฤติกรรม จึงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องสนุก ๆ สำหรับการกระชับมิตรระหว่างพนักงานภายในองค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็น “กลยุทธ์อันทรงพลัง” ที่เปิดโอกาสให้พนักงานภายในองค์กรรู้จักกันมากขึ้น กล้าคิด กล้าพูด การแสดงออก ทำให้การสื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมาเป็นพื้นที่ปลอดภัยของทุกคน ซึ่งนับว่าเป็นรากฐานสำคัญของทีมเวิร์คที่แข็งแกร่ง พร้อมจะนำพาองค์กรเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต

1. 2 Truths and a Lie

เกมแรกสำหรับกิจกรรม Ice Breaking สร้างทีมเวิร์ค คือ  2 Truths and a Lie หรือเกม 2 ความจริง 1 ความเท็จ

วิธีการเล่น 

สมาชิกภายในทีมแต่ละคนผลัดกันเล่าเรื่องของตัวเองคนละ 3 เรื่อง โดยเล่า 2 เรื่องที่เป็นความจริงและอีก 1 เรื่องเป็นความเท็จ จากนั้นให้สมาชิกคนอื่น ๆ ทายว่าเรื่องไหนคือเรื่องจริง เรื่องไหนคือเรื่องหลอก

ข้อดีของการเล่น

ข้อดีของการเล่นเกม 2 Truths and a Lie คือ สามารถเล่นได้ทั้งจำนวนคนกลุ่มเล็กไปจนถึงกลุ่มกลาง ช่วยให้สมาชิกภายในทีมหรือภายในองค์กรที่ยังไม่สนิทกันมากรู้จักกันมากขึ้นในมุมมองที่นอกเหนือจากเรื่องของการทำงาน

2. Human Bingo

เกมที่สองสำหรับกิจกรรม Ice Breaking สร้างทีมเวิร์ค คือ Human Bingo หรือเกมบิงโกมนุษย์ 

วิธีการเล่น

สร้างตารางบิงโกขนาด 3 x 3 หรือ 5 x 5 แล้วใครข้อเท็จจริงต่าง ๆ ลงไปในช่อง เช่น “เคยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น” “ชอบกินผัดกะเพรา” “เลี้ยงแมว” เป็นต้น จากนั้นแจกตารางบิงโกให้ผู้เล่นทุกคน เริ่มให้ทุกคนเดินไปรอบ ๆ และถามคำถามเพื่อหาคนที่ตรงกับข้อเท็จจริงในตาราง ผู้เล่นคนใดที่สามารถหาคำตอบครบแนวนอนหรือแนวทแยงก่อน ให้ตะโกนว่า “บิงโก!” หากเช็กคำตอบว่าถูกต้องสมบูรณ์ก็จะกลายเป็นผู้ชนะไปในทันที

ข้อดีของการเล่น

ข้อดีของการเล่นเกม Human Bingo คือ สามารถเล่นได้ตั้งแต่กลุ่มเล็กไปจนถึงกลุ่มใหญ่ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ทำความรู้จักและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันผ่านการถามคำถามที่หลากหลาย รวมถึงเป็นการปลุกฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) จากความตื่นเต้นในการหาคำตอบจากการแข่งขันกับเวลาและผู้เล่นคนอื่น ๆ ด้วย

3. Team Building

กิจกรรม Ice Breaking กิจกรรมสุดท้าย คือ การจัดกิจกรรม Team Building จาก BASE Playhouse ซึ่งเป็นการเปิดประสบการณ์การสร้างทีมเวิร์คแบบใหม่ไม่ซ้ำใคร! โดยการผสมผสานวิธีการสร้างทักษะการทำงานเป็นทีม (Collaboration Skills) และ Game & Activity Design เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของสมาชิกภายในทีมทุกคน รับรองว่าสนุก ไม่น่าเบื่อ แถมได้รับแรงบันดาลใจไปแบบเต็ม ๆ

กิจกรรม Team Building มีให้เลือกสรรตามความเหมาะสมของพนักงานภายในองค์กร ทั้ง ANACADE, MOO CROP, THE AERO FACTORY และเกมอื่น ๆ อีกมากมาย

ข้อดีของการเล่น

ข้อดีของการจัดกิจกรรม Team Building กับ BASE Playhouse อย่างแรกคือ สนุก แปลกใหม่ และไม่ซ้ำใคร! ด้วย Board Game และ Simulation Game ที่จะทำให้ผู้เล่นร่วมกันวางแผนและช่วยกันแก้ไขปัญหา เพื่อพิชิตภารกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จ ซึ่งต้องอาศัยการพูดคุยกันภายในทีมและการเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้เล่นคนอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดเป็นทีมเวิร์คที่ดี ลดความขัดแย้ง สร้างความสามัคคีได้อย่างเป็นธรรมชาติ

กิจกรรม Ice Breaking อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเป็นกิจกรรมที่ไม่จำเป็น แต่จริง ๆ แล้วกิจกรรม Ice Breaking เป็น “ประตูด่านแรก” ในการสร้างทีมเวิร์คที่แข็งแกร่งให้กับองค์กร สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมา ส่งผลให้เกิดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ลดความขัดแย้ง คุณภาพของผลงานตรงตามาตรฐาน องค์กรก็จะเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคง

อ้างอิงจาก

ทีมเวิร์ค (Teamwork) ปัจจัยสำคัญสร้างความสำเร็จขององค์กร, disrupt

มัดรวม 12 กิจกรรม Ice Breaking กิจกรรมละลายพฤติกรรมสนุก ๆ, disrupt

‍

หลักสูตรแนะนำ

Cross-Cultural Communication in the Workplace

การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ในองค์กรแห่งความหลากหลาย 

หลักสูตรนี้ออกแบบมาสำหรับองค์กรที่ต้องการยกระดับทักษะการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมในสถานที่ทำงานและเสริมสร้างความตระหนักด้านความหลากหลายในองค์กร ผู้เข้าร่วมจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับองค์ประกอบสำคัญของความหลากหลาย

คอร์สนี้เหมาะกับ

'Cross-Cultural Communication in the Workplace' เหมาะสำหรับบุคลากรในทุกระดับขององค์กร ตั้งแต่พนักงานทั่วไป ผู้จัดการ และผู้บริหาร

สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ

• Cross-Cultural Communication - เข้าใจหลักการพื้นฐานของการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมและผลกระทบต่อพลวัตภายในองค์กร
• Teamwork - พัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างการสื่อสารและการทำงานร่วมกันในทีมที่หลากหลาย
• Personal Action Plan - รู้จักการวางแผนเพื่อนำกลยุทธ์การสื่อสารข้ามวัฒนธรรมไปใช้ในการทำงานเพื่อการเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน

‍

รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม > อ่านที่นี่

ติดต่อปรึกษา BASE Playhouse ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ ที่นี่

‍